เวลานี้… คงไม่มีเกาะไหนจะฮอตเท่าเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) ของประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง… พม่า (Myanmar) ซึ่งการเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้นั้นแสนง่าย… เพียงแค่เพื่อนๆ เอาตัวเองมาอยู่ที่จังหวัดระนองให้ได้ พร้อมกับบัตรประชาชน!! เพียงเท่านี้เพื่่อนๆ ก็สามารถสัมผัสกับความสวยงามของท้องทะเล ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก!
ซึ่งการมาเที่ยวเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) หรือเกาะช้างเผือก ในครั้งนี้ ผมจะแบ่งจุดไฮไลท์ออกเป็น 4หัวข้อ ดังนี้ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถคลิกที่หัวข้อได้เลยนะครับ
-
หลังช้าง (*ห้ามพลาด)
-
เม็ดทราย (เตรียม Bikini รอได้เลย…)
-
บังเอิญ (มีโชว์จากน้องโลมาด้วย!)
-
ในทะเล (สายทะเลต้องมาโดน!)
จะสวยขนาดไหน? มาเถลไถลด้วยกันได้เลย…
หลังช้าง
เรามาเริ่มกันที่ จุดชมวิวบนยอดเขา (บนหลังช้าง) ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดของเกาะกันก่อนเลย… ในเวลาน้ำลงตรงจุดนี้จะมีทะเลแหวกขนาดเล็ก ซึ่งฝั่งที่มีหาดทรายโผล่ขึ้นมานั้น จะจุดเริ่มต้นสำหรับปีนเขาเพื่อขึ้นไปจุดชมวิว
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนปีนขึ้นไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถเล่นน้ำ ถ่ายภาพอยู่บริเวณด้านล่างได้… แต่แอดอยากจะบังคับให้ขึ้นไปให้ได้น้า… ทนร้อนเท้าสักหน่อย แต่วิวด้านบนมันคุ้มค่ามากจริงๆ น้า
เมื่อมาถึงด้านบนแล้ว สิ่งที่สาวๆ จะขาดไม่ได้เลยคือ ชุดว่ายน้ำตัวโปรด กับกล้องถ่ายรูป เพราะเพื่อนๆ จะได้ภาพชิคๆ ไว้เปลี่ยนรูป Profile หรืออัพลง IG ได้อีกหลายวันเลยครับ… ^_^
ส่วนผู้ชายสาย Landscape อย่างเรา ก็มีวิวสวยๆ ให้ได้ลั่นชัตเตอร์กันอย่างมันมือพอสมควร อย่างเช่นบริเวณด้านบนจุดชมวิว ที่สามารถเห็นสีน้ำทะเลได้อย่างชัดเจน
หรือบริเวณทะเลแหวกด้านล่าง ก็มีมุมหินน้อยใหญ่ ให้เพื่อนๆ ได้เก็บภาพเช่นกัน
ส่วนสายโดรน คงไม่ต้องพูดอะไรมาก… อลังการสุดๆ แน่นอน!! และจุดที่แอดจะแนะนำให้มาบินเก็บภาพคือ เกาะทะลุ ช่องทางน้ำเล็กๆ ที่ไหลขั้นกลางระหว่างตัวเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) แห่งนี้
เพื่อนๆ ได้เห็นภาพสวยๆ ที่ถ่ายจากจุดชมวิวกันไปแล้ว คราวนี้มาดูวิธีการนำร่าง ไปอยู่ตรงจุดนั้นกันบ้างดีกว่า (มีแอบขู่เล็กๆ)
บริเวณจุดชมวิว เรือจะไม่สามารถจอดเทียบหาดได้ เนื่องจากหินเยอะ นั้นหมายความว่า??
ต้องใช้วิธีการลอยตัว หรือว่ายน้ำเข้าไปหาดเองแบบนี้….
สำหรับท่านใดที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ต้องกลัว หรือกังวล เพราะมี Staff คอยดูแล-ลากเข้าฝั่งให้ด้วยน้า
เมื่อว่ายน้ำมาถึงหาด พักเหนื่อย รอเพื่อนๆ กันได้สักครู่… ก็มาปีนเรา เอ่ย!! ปีนเขา เพื่อขึ้นไปจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) แห่งนี้
ทางปีนขึ้นค่อนข้างชัน ต้องใช้ความระมัดระวังในการปีนด้วยนะครับ ส่วนในจุดที่ยากๆ จะมี Staff ที่น่ารัก คอยช่วยดูแลเป็นพิเศษ
เม็ดทราย
มาต่อกันที่จุดไฮไลท์ที่ 2 ชายหาดของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) มีลักษณะเป็นหาดทรายขาว ละเอียด ซึ่งเป็นจุดที่ใช้พักผ่อน ทานข้าวกลางวัน และเล่นกิจกรรมต่างๆ
เมื่อลงมาถึงหาด เพื่อนๆ ก็จะพบกับป้ายชื่อเกาะเท่ๆ แบบนี้…
ในระหว่างรอคุณแฟนไปหยิบอาหาร ขอบินโดรนกับแบตก่อนสุดท้าย เพื่อสำรวจเกาะเพิ่มซะหน่อย
ซึ่งอาหารกลางวันของเราในวันนี้ เป็นแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ มีทั้งของคาว และของหวาน กินจัดหนัก จัดเต็มได้เลยจ้า…
ส่วนเมนูอาหารคาวในวันที่ไปนั้น มีกุ้ง-หมึกเผา ปลาสามรส ไก่ทอด ต้มยำ และส้มตำ ที่ทำกันสดๆ ให้เพื่อนๆ ได้กินกันด้วยครับ
หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก็จะมีเวลาเหลือให้เพื่อนๆ ได้พักผ่อน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งพายเรือคายัค เล่นน้ำ หรือหามุมถ่ายรูปสวยๆ
หลังจากพักผ่อน และทำกิจกรรมต่างๆ กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทางกลับฝั่ง (แอบอยากมานอนกางเต้นท์ที่นี้สักคืนจัง ^_^)
บังเอิญ
ในระหว่างการเดินทางกลับ พวกเราก็สลบตามสภาพเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน… แต่อยู่ดีๆ กัปตันเรือได้จอดเรือ และเรียกให้ดูฝูงปลาโลมา!!
ยังเมาๆ ขี้ตาอยู่เลย… หยิบกล้องขึ้นมาปรับสปีดชัตเตอร์ แล้วยิ่งรัวๆ ผลที่ได้คือ โลมากระโดดโชว์จ้า…!!
ถือว่าเป็นโชคดีของพวกเรามากๆ ที่เห็นฝูงปลาโลมาธรรมชาติเยอะขนาดนี้… ต้องขอบคุณกัปตันเรือ ของ Love Andaman ซึ่งเขาจะขับผ่านไป เพื่อให้เลิกงานเร็วๆ ก็ทำได้ แต่เลือกที่จะเสียเวลาส่วนตัว เพื่อให้ลูกเรือได้ชมความน่ารักของฝูงปลาโลมา
และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือเกาะสอง ซึ่งตรงกับช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี จึงทำให้ผมได้ภาพที่ถูกใจมากอีกภาพหนึ่งจากทริปนี้
ย้อนกลับมาที่ตอนเช้า เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะมาเที่ยวนะครับ สำหรับทริปเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) หรือเกาะช้างเผือก จะขึ้นเรือที่ ท่าเทียบเรือศุลกากร จังหวัดระนอง (ประภาคาร)
ในระหว่างรอทีมงานเดินเรื่องให้ เพื่อนๆ สามารถขึ้นไปด้านบนของประภาคาร ซึ่งจะเป็นจุดชมวิว และยังมีร้านขายของชำเล็กๆ หรือถ้าใครหิวก็มีพวกโจ๊ก มาม่าคัพ ให้จัดหนักกันตอนเช้าด้วยน้า
เมือทีมงานทำเรื่องผ่านแดนเรียบร้อย ก็จะมาแวะที่ท่าเรือเกาะสองก่อน เพื่อรับพี่ๆ Staff ของฝั่งพม่า ส่วนถ้าใครเป็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวไทย และต้องการไปเกาะค๊อกเบิร์น (เข้าประเทศที่ 3) ต้องลงไปทำเรื่องต่ออีกนิด
ก่อนเริ่มออกเดินทาง และทุกครั้งที่จอดเรือจะมี Staff ให้ความรู้ คำแนะนำตลอด… อย่างเช่นท่านนี้ (ดูจากAttitude ไม่น่าจะใช้ Staff) ได้อธิบายถึงความอุดสมบูรณ์ใต้ทะเล ของเกาะค๊อกเบิร์น เล่นซะคนชอบดำน้ำอย่างผมอยากให้ถึงเร็วๆ เลยครัช
ส่วนน้องข้าวหอม และพี่สเตฟานี่ ไกด์หลักของทริป ก็ดูแลลูกทริปเป็นอย่างดี เห็นแกลากลูกทริปที่ว่ายน้ำไม่แข็ง ไปชมปะการังตามจุดต่างๆ และคอยอำนวยความสะดวกทุกเรื่อง ขอบคุณครับ
ก่อนที่จะไปดำน้ำ เพื่อชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลกันต่อ… หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเกาะถึงต้องชื่อนี้? เนื่องจากภูเขามีลักษณะเหมือนช้างกำลังเล่นน้ำ และด้านบนมีหินอ่อนสีขาว จึงเรียก เกาะช้างเผือก จ้า…
ในทะเล
มาต่อกันที่… ไฮไลท์จุดสุดท้าย คือ การดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเล ของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) หรือเกาะช้างเผือก กันครับ ^_^
โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบศึกษาธรรมชาติ และผมก็เพิ่งได้ตกหลุมรักโลกใต้ทะเลมาได้ประมาณ 2ปีแล้ว ครั้งนี้จึงขออาสาพาเพื่อนๆ มุดลงใต้ทะเลของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์โลกใต้ทะเลของเกาะนี้ ถ้าพร้อมแล้วลุยกันต่อโรด!!
เริ่มกันที่เจ้า… หมึกกระดอง (Cuttlefish) ผมได้มีโอกาสเจอ 1ตัว และทีเด็ดของเจ้าตัวนี้คือ การไล่คลื่นสีที่แผ่นหลังของมัน (เสียด้ายว่ายไปอัด vdo ต่อไม่ทัน T-T)
ปลาการ์ตูน… ครั้งแรกที่เห็น ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์มาก!! เพราะเจ้า ปลาการ์ตูนแดงดำ หรือปลาการ์ตูนปานดำ (Red Saddleback Anemonefish) ไม่ใช่จะหาชมได้ง่ายๆ ขนาดผมดำน้ำมากว่า 10ที่ ก็ยังไม่เคยพบเจ้าพวกนี้เลย… เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังหาชมสายพันธุ๋นี้อยู่ แนะนำให้มาที่เกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) แห่งนี้เลยได้ เจอชัวร์ๆ ครับ
ระบบนิเวศใต้ทะเลของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) ยังถือว่าสมบูรณ์ และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตอยู่มาก
ซึ่งน้องปักเป้า ก็สามารถพบได้ที่นี้เช่นกัน… ตัวนี้น่าจะเป็นสายพันธุ์ Blackspotted puffer หรือเรียกไทยๆ ว่าปลาปักเป้าหน้าหมา!!
ขอแวะมาที่หมึกกระดองอีกนิด ลืมบอกว่านอกจากมันไล่คลื่นสีที่แผ่นหลังได้แล้ว… มันยังสามารถเปลี่ยนขอบลำตัวให้เป็นสีฟ้าได้อีกด้วยน้า… อย่างเท่!
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนชอบปะการังสวยๆ ปลาสีสันสวยงาม ที่ด้านล่างก็มีให้ชมอยู่เยอะพอสมควรครับ
อย่างเช่น ลูกของปลาสลิดหินม้าลาย (Dascyllus aruanus) ที่ลำตัวมีสีขาวดำ คล้ายกับทางม้าลายกลุ่มนี้
และถ้าเพื่อนๆ สังเกตดู จะพบว่ารูปส่วนใหญ่จะมี ปะการังเขากวาง (Staghorn Coral) เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยเสมอ… และแน่นอนครับ ที่นี้คือ King of Staghorn Coral ผมขอยกให้เป็นแหล่งที่มีแนวปะการังเขากวาง ที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยหละ!
ด้วยแนวปะการังเขากวางที่สมบูรณ์ขนาดนี้… จึงเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ และที่หลบภัยให้แก่เหล่าปลาเล็ก ปลาน้อยได้เป็นอย่างดี
รวมถึงการสร้างความปลอดภัยให้กับบ้านของเจ้าปลาการ์ตูนทั้งหลายได้อีกด้วย
ซึ่งบริเวณจุด King of Staghorn Coral นี้เอง… ที่เพื่อนๆ จะพบกับดอกไม้ทะเลตระกูล Entacmaea quadricolor ที่เป็นรังของปลาการ์ตูนแดงดำ หรือปลาการ์ตูนปานดำ (Red Saddleback Anemonefish) ที่มีขนาดใหญ่สุด และมีประชากรปลาการ์ตูนเยอะสุดเท่าที่ผมเคยได้พบมา
เพื่อนๆ คงสงสัยว่าเยอะขนาดไหน? ขอตอบ (ณ วันที่ 27Mar, 2018) ว่า 20ตัว++ ครับ อย่างฟิน~~
แต่ก็มีบางตัว แอบไฮโซ ย้ายมาอยู่คฤหาสน์เท่ๆ ก็มีเหมือนกัน ^_^
มัวแต่โชว์ตัวเจ้าปลาการ์ตูนแดงดำอย่างเดียว… เด่วเจ้าปลาการ์ตูนลายปล้อง (Clark’s Anemonefish) จะน้อยใจ โชว์ตัวสักรูปก็แล้วกัน…
นอกจากความสวยของปลาตัวน้อย ดอกไม้ทะเล และปะการังเขากวาง แล้วนั้น ภายใต้ท้องทะเลของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) ยังมีแนวปะการังอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะมากครับ
รวมถึง แนวปะการังผักกาด / ปะการังแผ่น ที่มีความสมบูรณ์ไม่น้อยหน้าเจ้าปะการังเขากวางเลย…
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ มองจากพื้นน้ำ… แสงแดดที่ส่องลงไปถึงแนวปะการังผักกาด / ปะการังแผ่น จะทำให้เห็นเป็นสีสัน สวยงามไปอีกแบบครับ
มาชมภาพฝูงปลา ซึ่งจะเป็น Set สุดท้าย ภายใต้ท้องทะเลของเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) แล้วหละ!
เจ้าปลาแก๊งค์นี้ ผมไม่รู้ละว่ามันคือพันธุ์อะไร แต่เมื่อลำตัวได้รับแสงองศาพอดีๆ จะมีสีเหลืองทอง อย่างเท่… (ใครทราบหลังไมค์มาแชร์ความรู้กันบ้างน้า…)
เชื่อว่าสิ่งที่ผมได้เจอ และมีโอกาสนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ชมนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ของความสวยงามจากโลกใต้ทะเลเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) แห่งนี้
ถ้าเพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาเที่ยว แล้วเจออะไรแปลกๆ ก็อย่าลืมมาโชว์กันบ้างน้า… เจอกันทริปหน้าครับ ^_^