เกาะแสมสาร อยู่ภายใต้ความดูแลของ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จัดตั้งขึ้นโดยกองทัพเรือ ตามพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ และสร้างจิตสำนึกต่อทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งยังเปิดให้คณะนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้มาศึกษา เยี่ยมชมอีกด้วย
เมื่อทราบประวัติความเป็นมาแบบคร่าวๆ กันไปแล้ว ผมขอตัดภาพลงมาที่ใต้ทะเล เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ของเกาะแสมสารกันเลยครับ
ปลากระเบนจุดฟ้า หรือปลากระเบนทอง (ต่างประเทศเรียกเจ้าตัวนี้ว่า Bluespotted ribbontail ray) เป็นสิ่งที่ผมเซอร์ไพรส์สุด เพราะไม่คิดว่าจะเจอเจ้าตัวนี้…จากการขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 3ชั่วโมง!
ดำไปเรื่อยๆ เจอหอยสังข์!! หรือที่ชาวบ้านเรียกเจ้าตัวนี้ว่า… หอยสังข์หน้ายักษ์ แต่ผมไม่รู้ชื่ออย่างเป็นทางการของมัน ถ้าเพื่อนๆ ท่านใดมีความรู้ด้านนี้ แนะนำได้นะครับ
และจะขาดเจ้าตัวนี้ไปไม่ได้เลย… ปลาการ์ตูน หรือที่เรียกเรากันติดปากว่า “นีโม” ตามชื่อหนังแอนิเมชั่น ของวอลท์ ดิสนีย์
ซึ่งผมเห็นอยู่ 2สายพันธุ์ด้วยกัน คือ ปลาการ์ตูนส้มขาว (Clown Anemonefish) หน้าตามันจะเหมือนกับแฟนกันคู่นี้
ส่วนอีกสายพันธุ์ คือ ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง (Sebae Clownfish) ซึ่งทั้ง 2สายพันธุ์ ปกติผมจะเจอรังเยอะๆ แบบนี้เฉพาะตอนไปดำน้ำที่ภาคใต้เท่านั้น… แต่นี้คือชลบุรี จริงดิ!!
หอยมือเสือยักษ์ (Giant clam) ก็มีให้เพื่อนๆ ได้ชมสีสันอันสวยงาม… อย่างเจ้าตัวนี้ สีเจ็บไหมละ! เขียวสะท้อนแสง
หรือจะ… หอยมือเสือยักษ์สีดำ-ฟ้า ก็มีให้ชมกันอย่างหลากหลาย แบบไม่ต้องว่ายน้ำหาให้เหนื่อย
อยู่ใต้น้ำนาน กลัวเพื่อนๆ เบื่อ… พามาชมเรือที่ใช้พาพวกเราไปดำน้ำกันบ้างดีกว่า…
ถ้าดำน้ำฝั่งหาดลูกลม จะเป็นเรือยางทั่วไป แต่ถ้ามาดำฝั่งหาดเทียน จะได้นั่งเรือของกองทัพฯ แบบนี้… อย่างเท่!!
มุดลงมาใต้ทะเลเพื่อชม และศึกษาธรรมชาติกันต่อ… ฝูงปลาเหล่านี้มักจะชอบอาศัยอยู่ใต้โป๊ะ ใต้เรือ หรือที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึง
เกาะแสมสาร สร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจอกับกัลปังหา ถึงแม้ว่าสีสันจะไม่สดใสเหมือนภาคใต้ แต่ก็เกินความคาดหมายของผมไปมากแล้วครับ
ร่วมทั้งระบบนิเวศใต้ทะเล ที่ดูยังไง ก็ไม่คิดว่ามันอยู่ที่สัตหีบ จ.ชลบุรี เลยสักนิด
ปกติตอนอยู่บนบก ถ่ายรูปแล้วอาจจะติดคนผ่านหน้ากล้องไปบ้าง… ส่วนใต้น้ำที่เกาะสามสาร… อย่าใช้คำว่าผ่าน เพราะมันคือการแย้งซีนเพื่อนเต็มๆ ถ้าเพื่อนๆ ลองสักเกตดู ปลาตัวขาว บังปลาการ์ตูนอยู่ จนเหลือแต่หาง ฮร่าๆ
ยัง… ยังไม่หมด! ปลาผีเสื้อปากยาว (Copperband butterflyfish) ก็มีให้เพื่อนๆ ได้ชม(ถ้ามีดวงพอ) เพราะผมก็เจอแค่ตัวเดียว… และต่อให้เที่ยวภาคใต้ ก็ใช่ว่าจะเจอเจ้าตัวนี้ได้ง่ายๆ นะครับ
ดำน้ำไปเรื่อยๆ ก็พบกับปลาปักเป้า แต่ที่ผมสงสัยมานาน และลืมถามคนเรือตลอดคือ ไอเส้นขาวๆ ที่เกาะอยู่ตามประการัง มันคือตัวอะไรหว่า?? ที่หัวมีหนวดเล็กๆ ยื่นออกมาด้วยอ่า…
ดำไปทางไหนก็เจอ… ปลาการ์ตูน (น้องนีโม) ถ้าเพื่อนๆ อยากเจอเยอะๆ แบบนี้ แนะนำให้ถามเจ้าหน้าที่ หรือพี่ๆ ทหารที่ไปด้วยกันเลย… ทะเลมันกว้าง อย่างน้อยๆ เราก็รู้ทิศทางว่าควรจะว่ายไปทางไหน
ส่วนเพื่อนๆ ที่ชอบดำน้ำ และเที่ยวทะเลเป็นประจำอยู่แล้ว คงหาได้สบายครับ เพราะสายตาของเพื่อนๆ กลุ่มนี้จะตรวจจับดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นรังของปลาการ์ตูนได้เร็วมาก…
ก่อนที่พวกเราจะขึ้นเรือเพื่อกลับไปนอนซิลริมหาด… ก็ยังพบกับปลากระเบนจุดฟ้า ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวแรกที่เจอ แต่ผมไม่ได้ว่ายเข้าไปใกล้มาก เพราะเหมือนมันจะแอบหลับอยู่ เลยไม่อยากไปกวน…
ได้ภาพมาเยอะขนาดนี้… เหนื่อย เปื่อย แต่คุ้มค่า และมีความสุขมากๆ ส่วนไอที่บอกเปื่อยเนี้ย… เฉพาะมือเน้อ ^_^”
นั่งเรือกลับเข้าฝั่งกันดีกว่า…
ขึ้นมาชมความงามของหาดทราย บนเกาะแสมสารกันต่อ… เริ่มกันที่ หาดลูกลม
หาดลูกลม เป็นชายหาดบนเกาะแสมสาร ที่มีเม็ดทรายขาว ละเอียด และมีคลื่นไม่สูงมากนัก ซึ่งเหมาะกับการพาเด็กๆ หรือแก๊งเพื่อนมาเล่นน้ำ ถ่ายรูปอัพลงโซเชียล อย่างมาก…
ซึ่งที่หาดลูกลม จะมีตาข่าย(Net) เพื่อให้เพื่อนๆ ได้มาเล่นกีฬา-กิจกรรมริมหาด กันได้ด้วย
หรือเพื่อนๆ บางคนตั้งใจมาพักผ่อนแบบจริงจัง ก็สามารถมานอนฟังเสียงคลื่น รับลมทะเลกันได้นะครับ
บริเวณด้านขวาของหาดลูกลม ลักษณะพื้นที่จะเป็นโขดหิน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินไปหามุมถ่ายรูปแนวๆ ได้เยอะเลยครับ
ระหว่างหามุมถ่ายรูปอยู่แถวโขดหิน… ก็ดันไปพบกับเจ้าสิ่งนี้ เพรียงคอห่าน (Goose barnacle) ซึ่งตอนจังหวะที่มันขยับ…หน้าตามันจะหลอนๆ หน่อยน้า…
สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่ไม่เคยดำน้ำตื้น หรือไม่เคยใช้หน้ากากดำน้ำ (Snorkel) ผมแนะนำให้มาดำน้ำที่หาดลูกลมเป็นจุดแรกครับ เนื่องจากจะมีพี่ๆ ทหาร คอยสอน แนะนำวิธีการใช้งาน รวมถึงให้ซ้อมดำน้ำที่บริเวณหน้าหาด ในระหว่างที่รอเรืออีกด้วย
ท่าเรือ-โป๊ะกลางทะเล จุดดำน้ำของหาดลูกลม และที่ผมประทับใจคือ การใส่ใจความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยจะมีพี่ๆ ทหารเรือคอยสอดส่อง-ดูแลผู้ดำน้ำอยู่ตลอดครับ
มาต่อกันที่… หาดเทียน (ท่าเรือฝั่งเกาะแสมสาร) เป็นหาดทรายที่มีพื้นที่ยาวที่สุดของเกาะแสมสาร แต่เม็ดทรายไม่ละเอียด และไม่ขาวเท่ากับหาดลูกลม
เนื่องจากเกาะแสมสาร อยู่ใกล้กับชายฝั่งมาก เพื่อนๆ จึงสามารถเห็นเรือประมงของชาวบ้านแถวนั้น ที่กำลังขับออกไปหาปลาได้… แต่พี่ๆ ชาวประมง เขาไม่ได้หาปลาในเขตอนุรักษ์ฯ นะครับ
และบนเกาะแสมสาร มียังมี ศาลเจ้าแม่อาม่าเกาะแสมสาร ให้เพื่อนเชื้อสายจีน หรือนักท่องเที่ยวมาไหว้ และชมความงามกันอีกด้วยนะครับ
ส่วนบริเวณท่าเรือจะมีศาลาไม้ ซึ่งในวันนั้นถูกใช้เป็นห้องเรียนสอนดำน้ำลึก (Scuba diving) ว่าแต่! ที่ไหนมีห้องเรียนสอนดำน้ำแบบนี้บ้าง… ผมขอไปสมัครด้วยคนค๊าบ…
หลังจากที่พวกเราเที่ยวแบบจัดหนัก และได้เรียนรู้ธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว… ก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับฝั่ง
ซึ่งหน้าตาของเรือ ที่พวกเราใช้เดินทางระหว่าง ท่าเรือเขาหมาจอ กับ เกาะแสมสาร ก็จะประมาณนี้ครับ โดยตารางการเดินเรือจะแบ่งเป็นเที่ยวไป 3รอบ และเที่ยวกลับ 3รอบ ดังนี้
- เที่ยวไป (ฝั่งมาเกาะ) : 9:00, 10:00, 11:00
- เที่ยวกลับ (เกาะมาฝั่ง) : 13:30, 15:00, 16:00
มาชมบรรยากาศบริเวณท่าเรือเขาหมาจอ ที่ตั้งอยู่ฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กันบ้าง… ซึ่งท่าเรือนี้ เป็นที่ขึ้น-ลงเรือ ทั้งขาไป และขากลับของเกาะแสมสาร
และความใสของน้ำบริเวณท่าเรือ ก็สุดเหมือนกันครับ แถมยังมีปลาตัวน้อยๆ ให้ได้ชมระหว่างที่รอเรืออีกด้วย
ความสวยงามทั้งหมดนี้ ธรรมชาติอย่างเดียวสร้าง และปกป้องไม่ได้ครับ ต้องขอขอบคุณ และขอยกความดี ความชอบให้กับกองทัพเรือ (เจ้าภาพใหญ่) และนักวิจัยทุกๆ ท่าน ที่ได้ดูแลเกาะแสมสารแห่งนี้เป็นอย่างดี…
ผมขอ Say goodbye… ด้วยป้ายเกาะแสมสาร และข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ แล้วพบกันใหม่ครับ (มีซ้ำแน่นอน!!)
ข้อแนะนำ
- เลี่ยงการเที่ยวในช่วงวันหยุด
- โทรสอบถามพิพิธภัณฑ์ฯ ว่าในวันดังกล่าวมีหน่วยงาน หรือนักศึกษามาเยี่ยมชมหรือป่าว
(ถ้ามี) ให้ถามจำนวนคน เพื่อประเมิณสถานะการณ์ เนื่องจากเกาะจะกำจัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงวันละ 300คนเท่านั้น
– ช่องทางการจองยังมีการเปลี่ยนอยู่ตลอด แนะนำให้ดูข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์หลักของพิพิธภัณฑ์ฯ https://goo.gl/XfJTEJ เท่านั้น