ดอยหลวงเชียงดาว ยอดดอยที่มีความสูงอันดับ 3ของประเทศ ตั้งสูงตระหง่านอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 70กิโลเมตร
การได้พิชิตยอดดอยหลวง คงเป็นความใฝ่ฝันของเพื่อนๆ หลายคนไม่ใช่น้อย… บางคนก็ได้ทำตามความฝันสำเร็จแล้ว ส่วนเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีโอกาสที่จะได้พิชิต ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่… ลองตามมาเที่ยวกับพวกเราดูก่อนได้ครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยได้สัมผัสความสวยงามด้วยตาตัวเองมาแล้ว อยากให้ลองตามมาเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง… มุมมองจะแตกต่างจากที่เพื่อนๆ เคยได้สัมผัสมาแน่นอนครับ
เนื่องจากมีเรื่องราวให้เล่าค่อนข้างเยอะ ผมจึงขอแยกออกเป็น 6 หัวข้อ ดังนี้ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถคลิกที่หัวข้อได้นะครับ
-
สูงเสียดฟ้า
-
แสงสุดท้าย
-
รับลม ชมดาว
-
ซุกหัวนอน
-
เพื่อพิชิต (เส้นทาง เด่นหญ้าขัด)
-
โบกมือลา (เส้นทาง ปางวัว)
ถ้าพร้อมแล้ว!! แบกเป้ตามมาได้เลย…
สูงเสียดฟ้า
จุดไฮไลท์ของดอยหลวงเชียงดาวคือ การได้ปีนขึ้นยอดดอยเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งมีเส้นทางที่ค่อนข้างชัน และมีหินที่แหลมคม
ข้อแนะนำ
- ให้พก ไฟฉาย และเสื้อกันหนาวไปด้วย
- ควรเริ่มปีนขึ้นไม่เกินเวลา 16:30น. เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ตก
- ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการปีนขึ้น – ลง
ระหว่างทางปีนขึ้น… จะสามารถเห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างชัดเจน
ปีนขึ้นมาแค่แป็ปเดียว ก็ต้องจอดพักถ่ายรูปเล่นกันซะแล้ว… อย่างที่แจ้งไว้ข้างต้นครับว่า… ทางมันชัน T-T
วิวระหว่างทางมีมากพอที่จะให้กดชัตเตอร์ได้เรื่อยๆ
จนกระทั่ง… เห็นอะไรแปลกๆ บนสันเขาฝั่งโน้น… พอซูมเข้าไป เฮ้ย!! เลียงผา หรือกวางผา??
ถ้าเพื่อนๆ รู้ว่ามันคือ เลียงผา หรือกวางผา หลังไมค์มาบอกได้น้า…
ดอยหลวงเชียงดาว ถึงแม้จะเป็นภูเขาหินปูน แต่บนสันเขาก็มีต้นไม้ และพรรณไม้แปลกๆ ให้ได้ชมครับ
นอกจากดอกเทียนนกแก้วแล้ว ที่นี่ยังมี จ๊าฮ่อมเชียงดาว (ชื่อวิทยาศาสตร์ Strobilanthes Chiangdaoensis Terao) ให้เพื่อนๆ ได้ตามหากันด้วยนะครับ
ส่วนพวงนี้ไม่ทราบครับว่าชื่ออะไร… เพื่อนๆ คนไหนรู้จักหลังไมค์มาบอกได้เหมือนเดิมน้า…
ยังไม่ถึงยอดเลย… แต่พระอาทิตย์เริ่มลดระดับลงมาเรื่อยๆ เลยแวะพักถ่ายรูปเก็บไว้ก่อนดีกว่า
ในระหว่างการปีน ผมใช้ GoPro เก็บภาพไว้ทั้งหมดครับ รอติดตามชมกันได้เร็วๆ นี้ค๊าบ…
แสงสุดท้าย
ในที่สุดพวกเราก็ปีนขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของดอยหลวงเชียงดาว… ผมจึงรีบตั้ง GoPro เพื่อเก็บภาพ Time-lapse เทพๆ เพื่อมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ
พอได้เห็นวิวสวยๆ + อากาศเย็นๆ แบบนี้ ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งหมด หายเกลี้ยงเลยครับ
ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า… แสงสุดท้ายของวันเริ่มหมดลง
พวกเราเริ่มปีนลงจากยอดดอย หลังจากแสงสุดท้ายลับไป ซึ่งในตอนนี้หละครับ ที่ต้องใช้ไฟฉาย… และต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินอย่างมาก!!
รับลม ชมดาว
เมื่อลงมาถึงจุดกางเต็นท์ พวกเรามาตั้งวงกินข้าว และแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัว…
และในเวลาประมาณ 21:00น. ทางช้างเผือกเริ่มปรากฏตัวให้เห็น ผมจึงรีบเตรียมอุปกรณ์ และเก็บภาพให้ไว้!! ในตลอดระยะเวลาการถ่ายภาพ จะมีลมเย็นมากๆ คอยพัดมาให้ขนลุกอยู่เรื่อยๆ
กว่าจะได้มาแต่ละใบไม่ใช้เรื่องง่าย เนื่องจากบริเวณจุดกางเต็นท์จะมีแสงไฟรบกวน จากไฟฉายอยู่ตลอดเวลา…
สำหรับเพื่อนๆ ที่ตั้งใจจะไปถ่ายแบบผมก็อย่าไปโกธ หรือหงุดหงิดนะครับ เพราะความปลอดภัยของทุกชีวิตสำคัญสุดครับ (ถ้าไม่ใช้ไฟฉาย หัวทิ่มแน่นอนนน)
ซุกหัวนอน
ย้อนกลับมาชมบริเวณจุดกลางเต็นท์กันบ้าง… จะมีจุดกางเต็นท์อยู่หลายจุดด้วยกัน มีทั้งใกล้ และไกลจากยอดดอย แต่ในภาพนี้เป็นเพียงแค่จุดเดียวที่พวกเราได้ซุกหัวนอนกันเท่านั้นครับ
บรรยากาศยามเช้า และวิวจากบริเวณจุดกางเต็นท์
และสามารถเห็นแสงพระอาทิตย์ ในเวลาประมาณ 8:00น.
เพื่อพิชิต (เส้นทาง เด่นหญ้าขัด)
เมื่อเพื่อนๆ ได้เห็นความงดงามของธรรมชาติเช่นนี้แล้ว คงอยากจะรู้กันแล้วว่า… ทางเดินขึ้นไปเพื่อพิชิตดอยหลวงเชียวดาว มันจะเป็นยังไง?? ตามมาชมกันได้เลย…
เส้นทางเดินขึ้น พวกเราใช้เส้นทางเด่นหญ้าขัด ซึ่งจะต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปสู่จุดเดินเท้า
พอถึงจุดเริ่มเดินเท้าเด่นหญ้าขัด ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จะมีแผนที่ดอยหลวงเชียงดาวให้ได้ศึกษาก่อนการเดินเท้า
เมื่อถ่ายรูป เช็คความพร้อมกันเรียบร้อย พวกเราก็เริ่มออกเดินกันเลย…
สิ่งของที่ควรพกติดตัว
- น้ำดื่มพกติดตัวอย่างน้อยๆ 1ลิตร (2 ขวดเล็ก)อาหารกลางวัน
- ลูกอมหวานๆ
- กระดาษชำระ
- กล้องถ่ายรูป
เส้นทางช่วงแรกจะเป็นการลัดเลาะซอกเขาไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีความชัน
ระหว่างทางเดิน ก็จะมีต้นไม้ หรือพรรณไม้แปลกๆ ให้ได้ศึกษา และเก็บภาพ
เริ่มมีวิวสวยๆ ให้ได้เก็บภาพบ้างแล้ว
พอเดินลึกเข้าไป… เส้นทางเริ่มเดินยากขึ้นเนื่องจากพื้นเป็นดินเปียก ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเพิ่มขึ้น
วิวระหว่างทางเริ่มมีให้เก็บภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
กระเพาะเริ่มทำหน้าที่แทนนาฬิกา… หิวกันแล้ว!!
พอได้ทำเลเหมาะๆ พวกเราไม่รีรอ… แกะห่อข้าวมากินอย่างไว ซึ่งเมนูของเราในมื้อนี้คือ ข้าวเหนียวไส้อั่ว + น้ำพริกตาแดง อย่าถามว่าหมดไม๊? ตอบเลยว่าเกลี้ยง!!
หลังจากพักย่อยอาหารกันเรียบร้อย พวกเราก็เริ่มเดินกันต่อ…
เส้นทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ แต่วิวก็เทพขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ซึ่งในระหว่างเส้นทางการเดินนั้น ถ้าสังเกตดีๆ อาจจะพบกับพรรณไม้หากยาก ให้ได้ศึกษา และเก็บภาพ อย่างเช่น ดอกเทียนนกแก้ว (ชื่อวิทยาศาสตร์ Impatiens Psittacina)
หรือพรรณไม้อื่นๆ อีกหลากหลายชนิด
ช่างภาพสาย Macro ที่ชอบถ่ายดอกไม้คงจะส่องกันมันมือเลยทีเดียว
โบกมือลา (เส้นทาง ปางวัว)
ได้เวลาโบกมือลาดอยหลวงเชียงดาวกันแล้ว… เส้นทางเดินลง พวกเราใช้เส้นทางปางวัว ซึ่งจะมีความลาดชันกว่าเส้นทางเด่นหญ้าขัด
ในช่วงแรกของเส้นทางเดินกลับ จะเป็นเส้นทางเดียวกันกับตอนขาเดินขึ้นมา… แต่มุมมอง และแสงที่ได้จะแตกต่างกันไปตามเวลา
แสงยามเช้า เป็นแสงที่ผมชอบมากที่สุดเพื่อการถ่ายภาพวิว…
ระหว่างการถ่ายภาพ ให้เพื่อนๆ คอยระวังการขวางทางเดินด้วยนะครับ โดยเฉพาะขวางทางลูกหาบ… เพราะของบนหลังของพวกพี่ๆ เขานั้น ไม่ใช่จะเบาๆ เลยน้า…
การเดินลงนั้น สบายกว่าตอนเดินขึ้นค่อนข้างเยอะ… จึงเก็บภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ชมแบบซิลๆ
หากเพื่อนๆ คนไหนชอบภูมิศาสตร์ ที่นี่คงเป็นอีกหนึ่งห้องเรียนให้ได้ศึกษา เรื่องการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกได้ดีเหมือนกันนะครับ
พวกเราได้เดินมาถึงทางแยก ให้เลี้ยวขวาไปทางปางวัวกันต่อเลย…
เส้นทางปางวัว (ขาลง) ในช่วงแรกจะเดินลัดเลาะป่าเป็นหลัก
ซึ่งจะมีพรรณไม้สวยๆ ที่แตกต่างจากเส้นทางเด่นหญ้าขัด ให้ได้ศึกษาอีกด้วย…
ภาพนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันคือรังของอะไรหรือป่าว? ใครทราบหลังไมค์มาบอกได้น้าค๊าบ…
ระหว่างที่อยู่ในป่า จะมีมุมให้ได้เก็บภาพอยู่ตลอดทาง…
ป่ากล้วย บนเขาก็มีให้เห็นนะครับ แต่ลำต้นจะเล็กมาก…
เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง… มองไปเห็นเปลือกหอย!! ไม่รู้ว่าโบราณหรือป่าว แต่ส่วนตัวผมยังไม่เคยเห็น เปลือกหอยที่มีลักษณะเช่นนี้…
หากเพื่อนๆ มีข้อมูลแบ่งปันกันได้นะครับ
ยังคงเดินเก็บภาพต่อไปเรื่อยๆ
บุ้งตัวใหญ่ๆ ก็มีให้เห็นได้ทั่วไป…
เพื่อนๆ คงจะสงสัย… ไหนทางลาดชัน ของปางวัวที่บอกไว้?
ภาพนี้เลยครับ ทางเดินเป็นดินลื่น ซึ่งต้องเดินอยู่บนเส้นทางแบบนี้นานมาก… เบรคกันจนปวดเขากันเลยทีเดียว
หลังจากพ้นเส้นทางหฤโหดนั้นมาได้ เดินอีกสักพัก… ก็ถึงจุดหมายแล้วครับ
และยังมีรถขายไอศครีม มาจอดรอถึงที่…
เป็นอย่างไรบ้างครับ…ดอยหลวงเชียงดาวในมุมมองของผม คงจะทำให้เพื่อนๆ ที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะไป หรือไม่ไป ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นน้า…
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค๊าบ…