เดอะบลูสกาย รีสอร์ท (The Blue Sky Resort) หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกกันติดปากว่าบลูสกาย จัดเป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายคน ที่อยากจะมาสัมผัสให้ได้สักครั้ง… และในวันนี้ผมจะป้ายยา เอ้ย!! จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ บลูสกาย เกาะพยาม (Payam Island) ผ่านมุมมองแบบอินดี้ๆ ของผมเอง จะแจ่มขนาดไหน ลุยกันเลย!!
ณ ท่าเรือเกาะพยาม… เพียงเพื่อนๆ นำตัวเองมาถึงเกาะให้ได้ จากนั้นโทรแจ้งรีสอร์ท แป็ปเดียว! รถกอล์ฟก็มารับพวกเราถึงท่าเรือ (สบายเกินไป… แอบไม่ชิน~~)
นั่งรถประมาณ 5นาที พวกเราก็มาถึงเดอะบลูสกาย รีสอร์ท – เกาะพยาม (The Blue Sky Resort – Koh Payam) เสียงคลื่นเบาๆ กับลมทะเลที่พัดเข้ามาแบบไม่ขาดสาย… นี่แหละวันหยุดของโผมมมมม
หลังจาก Check in อะไรเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเข้าห้องหอ… ซึ่งในวันนี้เราพักประเภทห้อง วิลลาโซนอาร์ (Villa Zone R) ที่มีจุดขายคือ ห้องติดคลอง เห็นวิวป่าโกงกาง แถมมีบันไดลงเล่นน้ำจากตัวห้องได้เลย
คุยกับพี่พนักงานเพลินๆ แป๊บเดียวก็เดินมาถึงห้องของพวกเราแล้ว…
ภายในห้องถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าพัก ได้ซึมซับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ด้วยการใส่ประตูกระจกบานเฟี้ยมมาให้ถึง 2ด้าน และหน้าต่างบริเวณหัวเตียงอีก 1ด้าน… จึงทำให้เห็นวิวป่าโกงกางได้แบบใกล้ชิด
บันไดลงเล่นน้ำ หรือท่าน้ำส่วนตัว… จุดเด่นของห้องวิลลาโซนอาร์ (Villa Zone R) จะสวยมากๆ ในเวลาน้ำขึ้น ส่วนตอนน้ำลง บรรยากาศ และปริมาณน้ำในคลองก็จะประมาณนี้ครับ
ปล่อยแฟนไว้ข้างนอก! แล้วเราเข้ามาดูบรรยากาศภายในห้องกันดีกว่า… เพียงเปิดแอร์เย็นๆ ฟังเพลงเบาๆ พักสายตาด้วยใบไม้สีเขียวของป่าโกงกาง บอกเลยว่าโคตรน่านอน!!
ถึงจุดนี้เพื่อนๆ หลายคนคงมีคำถาม ประเภทห้องมีกี่แบบ และแตกต่างกันยังไง? ผมจึงขอสรุปแบบสั้นๆ ให้ดังนี้ครับ
:: วิลลาโซนอาร์ (Villa Zone R) ห้องติดคลอง เห็นวิวป่าโกงกาง และมีบันไดลงเล่นน้ำจากตัวห้อง
:: วิลลาโซนแอล (Villa Zone L) การตกแต่งห้องเหมือน Zone R… จะต่างกันตรงที่ไม่มีบันได และไม่ติดคลอง
:: วิลลาลากูน / ซีวิว (Villa Lagoon view / Seaview) เป็นวิลล่าไม้ 2ชั้น ชั้นล่างเป็นห้องนอน และชั้นบนเป็นห้องนั่งเล่น ถ้าเลือกพักแบบ Lagoon จะเห็นวิวภูเขา กับป่าโกงกาง ส่วนถ้าเลือกพักแบบ Seaview จะเห็นวิวทะเล กับพระอาทิตย์ขึ้น
สดใสขนาดนี้ เพราะนอนชาร์จแบตกันจนเต็มอิ่มแล้วจ้า… ไปเดินชมรีสอร์ท หามุมถ่ายรูปเล่นกันต่อได้เลย
สะพานไม้คือเส้นทางเดินหลักที่เชื่อม Zone R & L ไว้ด้วยกัน… ซึ่งในแต่ละจุดก็จะมีมุมนั่งเล่น ให้เพื่อนๆ ได้แวะถ่ายรูปกัน
บริเวณหน้าหาดยังมีสระว่ายน้ำ บรรยากาศซิลล์ๆ ที่เหมาะแก่การนอนอาบแดด เล่นน้ำ หรือนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ใต้ต้นมะพร้าว
ซึ่งแพลนต่อไปของพวกเราในวันนี้คือ ปั่นจักรยานเที่ยวเกาะพยาม หาของกินอร่อยๆ และกลับมาดื่มต่อที่ร้านอาหารของที่พัก Blue Sky Restaurant
ที่บลูสกายเกาะพยาม เพื่อนๆ สามารถยืมจักรยานไปปั่นเล่นชมเกาะกันแบบฟรีๆ
วัดเกาะพยาม (Wat Ko Phayam) และสะพานท่าเรือ เป็นที่เที่ยวใกล้ที่พัก ที่พวกเราจะปั่นไปกัน! ส่วนจะสวยขนาดไหนนั้น… รอติดตามกันได้เร็วๆ นี้ค๊าบ
…กว่าจะกลับมาถึงที่พัก ฟ้าก็มืดซะแล้ว ขอนั่งพักดื่มเบียร์เย็นๆ กินบรรยากาศก่อนเข้าห้องสักหน่อย!! สำหรับเพื่อนๆ ที่ขี้เกียจออกไปหาอะไรกินข้างนอก ก็สามารถทานที่นี่ได้เลยครับ บรรยากาศดีมากกก
หมดไปหลายแก้วเพราะบรรยากาศมันพาไป… เดินกลับห้อง อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นกันสักหน่อย
ระหว่างที่นอนเล่นมือถือซิลล์ๆ พวกเราก็ได้ยินเสียงน้ำกระทบกับอะไรสักอย่าง… เลยเปิดม่านออกมาดู โอ้ววว!! ผมนี่หยิบขาตั้งกล้องอย่างไว!! แสงไฟจากสะพาน และห้องพัก บวกกับน้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้นมา ทำให้ค่ำคืนของบลูสกายสวยโหดมากกก… หลับฝันดีเลยคืนนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น กับแสงแดดอ่อนๆ พวกเราตื่นแต่เช้ามานั่งสูดอากาศที่ระเบียงด้วยความสดชื่นนน…
ได้นั่งดูสัตว์ตัวเล็ก ตัวน้อยในระบบนิเวศป่าชายเลนอย่างใกล้ชิด… ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเจ้าตัวเล็กมาด้วยถามกันไม่หยุดแน่นอนครับ ^_^
ซึ่งเช้านี้เรามีแพลนจะพายเรือไปตามลำคลอง ชมธรรมชาติป่าโกงกางกัน… ระหว่างที่รอน้ำขึ้นเลยขอเดินถ่ายรูปเล่น กินข้าวเช้า นั่งซึมซับบรรยากาศอันเงียบสงบไปพลางๆ ก่อน
ไม่นานพวกเราก็ได้ยินเสียงน้ำที่กระทบกับต้นโกงกางอีกครั้ง… น้องน้ำมาแล้ว!! น้ำจากทะเลค่อยๆ ไหลเข้าสู่ลำคลอง และป่าโกงกางจนเต็มทุกพื้นที่ และความใสของมันนั้นทำให้อยากโดดลงไปเล่นเลยละค๊าบ
เรารีบเดินไปเอาเรือคายัคที่อยู่บริเวณฝั่งขวาของชายหาด และเริ่มออกพายกันไปแบบช้าๆ เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
เส้นทางพายเรือคายัค เพื่อนๆ จะต้องเริ่มจากหน้าหาด และพายรอดใต้สะพานปูนเพื่อเข้าสู่ลำคลอง จากนั้นพายต่อไปได้เรื่อยๆ ตามกำลังของแต่ละคน หรือในเวลาน้ำลงเพื่อนๆ ก็สามารถพายเล่นอยู่บริเวณหน้าหาดได้เช่นกัน
ตอนขากลับขอจอดแวะพักเหนื่อยที่ห้องซะหน่อย… และนี้คือข้อดีของ Zone R อย่างที่บอกไปในช่วงต้นครับ (แต่ระวังจอดผิดท่าน้ำน้าาา เดี่ยวพ่อบ้านหัวจะแตกเอาได้ ^_^”)
น้ำในคลองเริ่มลดลงเรื่อยๆ… ได้เวลาพายเรือมาเก็บที่เดิมให้เรียบร้อย!!
ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ… ต้อง Check out ซ่ะแล้ว!
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องรอรอบเรือกลับฝั่งแล้วไม่รู้จะไปไหน ก็สามารถนั่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ที่รีสอร์ทต่อได้น้า…
หากมีแพลนจะไปพักที่อื่นต่อบนเกาะพยาม… ก็สามารถแจ้งพี่พนักงานขับรถกอล์ฟให้ไปส่งที่พักถัดไปได้เลย หรือใครต้องการนั่งเรือกลับฝั่งพี่พนักงานเขาก็จะมาส่งถึงท่าเรือเลยค๊าบ
เป็นยังไงกันบ้างครับ เดอะบลูสกาย รีสอร์ท – เกาะพยาม (The Blue Sky Resort – Koh Payam) ผ่านมุมมองสไตล์เถลไถล… ถึงแม้รีสอร์ทแห่งนี้จะเปิดมานานแล้ว แต่อย่างที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันละครับ ทำเลที่ตั้ง รวมถึงการดูแลปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ที่พักแห่งนี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังน่ามานอนพักอยู่ดี