จากอดีต… สู่ปัจจุบัน ณ โรงเรียนการเมืองการทหาร ภูหินร่องกล้า

โรงเรียนการเมืองการทหาร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ซึ่งในอดีตเคยเป็นโรงเรียน และฐานที่ตั้งของพรรคคอมมิวนิสมาก่อน ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว ตามมาชมกันเลย… เริ่มก้าวเข้าสู่เขตพื้นของโรงเรียนฯ จะพบกับบ้านหลังเล็กๆ อยู่หลายหลังด้วยกัน ซึ่งแต่ละหลังจะแบ่งออกเป็น ส่วนที่พักอาศัย ห้องพยาบาล ห้องเรียน คลังอาวุธ และฝ่ายทางการทหารต่างๆ   ส่วนรถแทรกเตอร์คันนี้ ถูกยึดมาตอนที่รัฐบาลจ้างบริษัทเอกชนสร้างถนนสาย นครไทย-ด่านซ้าย ในสมัยนั้น… แอบดูมีความขลังอยู่เบาๆ!!   ที่หน้าบ้านแต่ละหลังจะมีป้ายบอกข้อมูลว่า บ้านหลังนั้นๆไว้ทำอะไร หรือใครเคยพักอาศัยมาก่อน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาข้อมูลกันอีกด้วยครับ   วัสดุที่ใช้สร้างบ้านแต่ละหลังนั้น จะมีทั้งบ้านที่ใช้ไม้เนื้อแข็ง และบ้านที่ใช้ปีกไม้มาซ้อนทับกันเป็นฝาผนังบ้าน ซึ่งก็เริ่มผุพังไปตามกาลเวลาครับ   ส่วนบนหลังคาของบ้านที่อยู่ในร่มหน่อย ก็จะมีมอสขึ้นสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพมากครับ   อันนี้เมล็ดแดนดิไลออนหรือหว่า??   ตรงข้ามกับโรงเรียนฯ ยังมีกังหันน้ำ กับน้ำตกขนาดเล็กให้เพื่อนๆ ได้แวะเที่ยวต่ออีกนิดนึงด้วยนะครับ   โดยวัตถุประสงค์ของการสร้างกังหันน้ำตัวนี้ขึ้นมา เพื่อใช้ในการตำข้าวเปลือก ซึ่งถูกออกแบบ และสร้างโดยนักศึกษาคณะวิศวฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่หนีเข้าป่ามาหลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลา ครับ…

หินปุ่ม หินแตก ที่อท.ภูหินร่องกล้า

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ตั้งอยู่บน 3จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย โดยการเดินทางมาเยือนนั้น สามารถมาได้จาก 2เส้นทางหลัก คือ ทางภูทับเบิก หรือทางพิษณุโลก ภายในเขตอุทยานฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่หลายจุดด้วยกัน เช่น บ้านร่องกล้า ลานหินปุ่ม ลานหินแตก โรงเรียนการเมืองการทหาร และน้ำตกร่มเกล้า เป็นต้น ในวันนี้ผมจะพาไปเถลไถลจุดไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า  2จุด คือ (เพื่อนๆ สามารถคลิกที่หัวข้อได้นะครับ) ลานหินปุ่ม ลานหินแตก ซึ่งทั้ง 2จุดนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเป็นพิเศษนะครับ ถ้าพร้อมแล้วตามมาชมกันได้เลย…   ลานหินปุ่ม เริ่มกันที่ลานหินปุ่มกันก่อนเลย… บริเวณรอบๆ จะมีจุดให้แวะถ่ายภาพ หรือศึกษาข้อมูลอยู่ 5 จุดด้วยกัน ซึ่งเป้าหมายของเราในวันนี้คือ การชมพระอาทิตย์ตกที่ลานหินปุ่ม และผาชูธง   การไปตามจุดต่างๆ ต้องใช้วิธีการเดินเท้า โดยจะมีไกด์พื้นที่เป็นผู้นำทางให้ ซึ่งระยะการเดินไป-กลับของเราในครั้งนี้ประมาณ 3กิโลเมตร   เห็นระยะทางแล้วอย่าเพิ่งถอดใจกันนะครับ เพราะระหว่างทางก็จะมีมุมให้ได้เก็บภาพเป็นระยะๆ   ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้-ใบไม้สวยๆ ตามข้างทาง…