ดินเนอร์กลางทะเลระนอง แกะหอย เผากุ้งกินสดๆ จากฟาร์ม!!

กระเตงฟาร์มหอย FarmerBoy คือสถานที่ดินเนอร์สุดไพรเวทของเราในค่ำคืนนี้… คือเรื่องมันมีอยู่ว่า พวกเรามาเที่ยวจังหวัดระนองกันบ่อยมากในช่วง 2ปีที่ผ่านมา แวะกินร้านอาหารอร่อยๆ ในตัวเมืองมาก็เกือบครบทุกร้าน… จึงเป็นที่มาของการเสาะหาร้านอาหารใหม่ๆ จนมาเจอกับกระเตงสุดแนวแห่งนี้ เวลา 15:30 ณ ท่าเรือท่าโพธิ์ จุดเริ่มต้นการเดินทางสู่กระเตงฟาร์มหอยของ FarmerBoy… ซึ่งท่าเรือแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20กิโล จึงเหมาะกับผู้ขับรถยนต์เที่ยวมากกว่ามอไซค์ เพราะทางกลับตอนกลางคืนมืดมาก… ระหว่างรอพี่ๆ ขนเสบียงขึ้นเรือ พวกเราก็พบกับชาวบ้านที่เพิ่งกลับมาจากการหาหอยนางรมตามธรรมชาติ… ซึ่งขนาดของหอยที่ใหญ่เท่าหน้าคนนั้น บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลระนองได้เป็นอย่างดี เมื่อเรือพร้อมแล้วก็ไม่รอช้า… โดดขึ้นเรือกันเลย!! โดยจะใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 30-45 นาที ในระหว่างการเดินทาง นอกจากจะได้ความรู้เรื่องฟาร์มหอยแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถชมวิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้น ที่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทำสวน และประมงกันแบบใกล้ชิด อย่างเช่นเรือลำนี้ที่กำลังสูบน้ำออกจากโขดหินเพื่อหาหอยตามธรรมชาติ หรือพี่ๆ อีกกลุ่มที่ใช้คันเบ็ดในการหาปลาใหญ่กัน นั่งกินลมชมวิถีชีวิต ซึมซับธรรมชาติไปเพลินๆ ไม่นานพวกเราก็มาถึงกระเตงฟาร์มหอย ที่ตั้งสูงโดดเด่นอยู่กลางทะเล และเพื่อให้เที่ยวสนุกมากยิ่งขึ้นเรามารู้จักคำว่ากระเตง กันก่อน… มันคือกระท่อมของชาวประมงที่ปลูกอยู่กลางทะเล เพื่อเป็นที่พักชัวคราวไว้ใช้เฝ้าฟาร์มหอยของพวกเขาเนี้ยละครับ กระเตงทุกหลังจะถูกสร้างยกสูงจากพื้นน้ำ เพื่อหลบเลี่ยงปัญหาตอนน้ำทะเลหนุนสูง แถมยังเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นตอนเฝ้าฟาร์มหอยอีกด้วย จากสภาพแวดล้อมที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันไปบ้างแล้วนั้น… สถานที่แห่งนี้จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า การปืนป่าย หรือเพื่อนๆ…

ท่องโลกใต้ทะเล… เกาะแมคคลอยด์ (Macleod Island)

เกาะแมคคลอยด์ (Macleod Island) เป็นหนึ่งในสมาชิกของหมู่เกาะมากุย (Mergui Archipelago) จากทั้งหมด 800กว่าเกาะ!! และอย่างที่เพื่อนๆ ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทะเลพม่าเพิ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง… จึงไม่แปลกที่ทะเลพม่าจะมีธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้บนเกาะ แนวปะการัง และสัตว์ทะเลที่มีความหลากหลาย ซึ่งในรีวิวนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปชมความสวยงามใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะแมคคลอยด์กันแบบจัดเต็ม!! การเดินทางเริ่มต้นที่จังหวัดระนอง… ซึ่งทริปนี้เราใช้บริการของ Andaman Duck เจ้าของสัมปทานคนไทยเพียงเจ้าเดียวอยู่ ณ เวลานี้ ที่จะสามารถพาเพื่อนๆ ท่องเที่ยว ไปสัมผัสธรรมชาติอันสมบูรณ์ของเกาะแห่งนี้แบบ one day trip และรถที่มารับพวกเราถึงหน้าโรงแรมในวันนี้คือ รถสองแถวไม้ อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดระนอง… นั่งกินบรรยากาศ ชมวิวเมืองได้ไม่นาน… พวกเราก็ถึง Andaman Duck Lounge เพื่อ Check-in และรับฟังรายละเอียดการเดินทางของทริปในวันนี้ จะมีอะไรให้กินไหมน้อ? จะมีมาม่าขายป่าวหว่า? เป็นสิ่งที่เราแอบคิดมาตลอดทาง เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้ากันมาทั้งคู่!! แต่พอถึงหน้างานจริงๆ อิ่มแปล้เลยจ้า… ของว่างถูกเตรียมไว้แบบจัดเต็มมาก!! ทั้งขนมไทย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ผลไม้ และขนมกินเล่นอื่นๆ อีกหนึ่งข้อแตกต่าง ที่จะไม่พูดถึงเลยก็คงจะไม่ได้…

สายน้ำจากลำธาร สู่น้ำตกบกกรายอันเงียบสงบ จ.ระนอง

น้ำตกบกกราย (Bok Krai Waterfall) ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแวะเที่ยวที่น่าสนใจก่อนเข้าเมืองระนอง ด้วยความที่เป็นน้ำขนาดเล็ก และยังไม่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยว จึงทำให้น้ำตกแห่งนี้เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน นั่งแช่เท้า ฟังเสียงน้ำตกเป็นอย่างมาก เรามาทำความรู้จักน้ำตกแห่งนี้กันเลยดีกว่า… ตัวน้ำตกตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งระยะ-นาสัก อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งมีต้นกำเนิดสายน้ำมาจากเทือกเขานาง ที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดชุมพร กับระนอง ผีเสื้อที่แวะเวียนมากินแร่ธาตุต่างๆ บริเวณน้ำตก ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ผู้มาเยือนมีโอกาสจะได้พบเห็น และเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติกัน การมีป่าต้นน้ำที่ยังสมบูรณ์อยู่มาก แถมมีลำห้วยคลองบางบอนที่ชะลอการไหลของน้ำ จึงทำให้น้ำตกบกกรายแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะตามมาเถลไถล ต้องคิดเยอะนิดนึงครับ… เนื่องจากมันอยู่ห่างตัวเมืองระนองถึง 65กิโลเมตร++  สถานที่เที่ยวแห่งนี้จึงเหมาะกับคนที่ขับรถมาจากชุมพรเพื่อเข้าเมืองระนองซะมากกว่า เพราะยังไงก็ต้องขับรถผ่านอยู่แล้ว ^_^ จบแล้วค๊าบ… จังหวัดระนองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย… ยังไงเพื่อนๆ คอยติดตามกันได้เรื่อยๆ นะค๊าบ

สองฤดูกาล ณ ภูเขาหญ้า จ.ระนอง

ภูเขาหญ้า หรือเขาหัวล้าน ถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยว และที่พักผ่อนหย่อนใจประจำจังหวัดระนอง ซึ่งความพิเศษของเนินเขาลูกนี้นั้นคือ การเปลี่ยนสีสรรค์ตามฤดูกาล มาเริ่มกันที่… ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำ ที่มีหมอกบางๆ ลอยอยู่บนป่าไม้ที่เต็มไปด้วยความชุ่มชื่น เป็นสัญญาณบ่งบอกการเข้าสู่ฤดูฝนของจังหวัดระนองได้เป็นอย่างดี   จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา บวกกับความชื้น จึงทำให้บริเวณภูเขาหญ้าแห่งนี้ กลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวไปในทันที   รวมถึงต้นไม้น้อยใหญ่ ที่เริ่มผลิใบอ่อนหลังจากที่ไม่ได้รับน้ำอย่างเต็มที่ มาเป็นเวลานาน…   และนอกจากวิวเนินเขาสีเขียวขจีแล้ว จากจุดนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเห็นวิวของ น้ำตกหงาว ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับภูเขาหญ้าได้อีกด้วยน้า… ยิ่งไปช่วงหลังฝนตก สดชื่นแน่นอนครับ   สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบความเขียวขจีของ ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำ แบบนี้… ก็สามารถมาสัมผัสด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ของทุกปี (แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วยน้า +- นิดหน่อยครับ)   สัมผัสความชุ่มฉ่ำกันไปแล้ว… มาชมสีสรรค์ของ ฤดูแห่งความเร่าร้อน ที่มากับแสงแดด และทุ่งหญ้าสีทอง กันบ้างดีกว่าครับ   หลายคนคงสงสัยว่ามันคือสถานที่เดียวกันจริงดิ?? เพราะมันแตกต่างจากรูปก่อนหน้าอย่างมาก… และนี่แหละครับคือความพิเศษเรื่องฤดูกาลของภูเขาแห่งนี้   ปริมาณน้ำฝนที่ไม่เพียงพอ และแสงแดดอันร้อนระอุของฤดูร้อน…

สักการะพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ ที่วัดสุวรรณคีรี จ.ระนอง

วัดสุวรรณคีรี จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดระนอง ตั้งอยู่ที่อำเภอกระบุรี ซึ่งเป็นอำเภอรอยต่อกับจังหวัดชุมพร ภายในวัดมีจุดที่น่าสนใจคือ การรวบรวมเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของประเทศพม่า มาจำลองเพื่อให้นักท่องเที่ยว และชาวบ้านแถวนั้นมาไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยไม่ต้องไปไกลถึงประเทศพม่า เมื่อเพื่อนๆ เดินทางมาถึง ก็จะพบกับพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ สีทองสวยงาม ตั้้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขา ให้ได้สักการะขอพร และเก็บภาพกัน   ซึ่งรูปแบบของพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ แห่งนี้ ถูกจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากอง มหาบูชาสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของประเทศพม่านั้นเอง   และบริเวณวัดยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิม และพระธาตุเจดีย์ไจก์ถิโย ที่ถูกจำลองมาจากประเทศพม่า ให้เพื่อนๆ ได้สักการะ อีกเช่นกัน   เดินไหว้ขอพรกลางแดดร้อนๆ กันได้สักพักแล้ว พวกเรามาหลบร้อน แวะชมภายในศาลากันบ้างดีกว่า… ซึ่งภายในศาลานั้น เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพทันใจ   และยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระมหามัยมุนี หรือพระมหาเมียะมุนี อีกด้วย   สำหรับพานที่ใช้ในการบูชานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นมะพร้าว และกล้วยเป็นหลัก   หลังจากขอพรจากเทพทันใจ และพระมหามัยมุนี กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราออกมาชมความงามของพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ ก่อนกลับกันอีกสักหน่อยดีกว่าครับ   ก่อนจากกัน ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่สำคัญ… วัดสุวรรณคีรี…

ทะเลพม่า กับธรรมชาติที่ถูกซ่อน… เกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island)

เวลานี้… คงไม่มีเกาะไหนจะฮอตเท่าเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) ของประเทศเพื่อนบ้านเราอย่าง… พม่า (Myanmar) ซึ่งการเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้นั้นแสนง่าย… เพียงแค่เพื่อนๆ เอาตัวเองมาอยู่ที่จังหวัดระนองให้ได้ พร้อมกับบัตรประชาชน!! เพียงเท่านี้เพื่่อนๆ ก็สามารถสัมผัสกับความสวยงามของท้องทะเล ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก! ซึ่งการมาเที่ยวเกาะค๊อกเบิร์น (Cock Burn Island) หรือเกาะช้างเผือก ในครั้งนี้ ผมจะแบ่งจุดไฮไลท์ออกเป็น 4หัวข้อ ดังนี้ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถคลิกที่หัวข้อได้เลยนะครับ หลังช้าง (*ห้ามพลาด) เม็ดทราย (เตรียม Bikini รอได้เลย…) บังเอิญ (มีโชว์จากน้องโลมาด้วย!) ในทะเล (สายทะเลต้องมาโดน!) จะสวยขนาดไหน? มาเถลไถลด้วยกันได้เลย…   หลังช้าง เรามาเริ่มกันที่ จุดชมวิวบนยอดเขา (บนหลังช้าง) ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดของเกาะกันก่อนเลย… ในเวลาน้ำลงตรงจุดนี้จะมีทะเลแหวกขนาดเล็ก ซึ่งฝั่งที่มีหาดทรายโผล่ขึ้นมานั้น จะจุดเริ่มต้นสำหรับปีนเขาเพื่อขึ้นไปจุดชมวิว   ส่วนเพื่อนๆ คนไหนปีนขึ้นไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถเล่นน้ำ ถ่ายภาพอยู่บริเวณด้านล่างได้… แต่แอดอยากจะบังคับให้ขึ้นไปให้ได้น้า… ทนร้อนเท้าสักหน่อย แต่วิวด้านบนมันคุ้มค่ามากจริงๆ น้า  …